ประสบการณ์จากการติดตามผู้นำในดวงใจ

ประสบการณ์จากการติดตามผู้นำ
เริ่มจากเดินทาง

  • วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2559

13:00น. เดินทางออกจากชลบุรี
15:00น. มาถึง พระราม 2 ด้วยรถตู้ แล้วนั่งรถสองแถวต่อไปมหาชัย
15:45น. ถึง มหาชัยเมืองใหม่ แล้วได้เดินทางต่อไปด้วยรถแท็กซี่ แต่กลับเจอรถแท็กซี่ขับเลยหมู่บ้าน                   มหาชัยเมืองทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ LPN จ.สมุทรสาคร ดีที่ผมเปิด google map เลยไม่ได้หลงไป               ใกล้มาก
16:30น. ถึง มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน LPN จ.สมุทรสาคร พอถึงแล้วผมก็ไม่รอช้ารีบ                เข้าไปแนะนำตัวกับคุณสมพงค์ สระแก้ว(พี่ตุ่น) ผู้อำนวยการ/ ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริม                  คุณภาพชีวิตแรงงาน และพี่ๆที่ทำงานอยู่ที่ LPN และภาพแรกที่ได้เห็นพี่ตุ่น ผมกลับรู้เกรงขาม
             พี่ตุ่นหลายๆอย่างทำให้ผมคิดจินตนาการไปไกล ซึ่งทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากจะกลับบ้าน                  ตั้งแต่วันแรก ซึ่งครั้งแรกที่ผมเจอพี่ตุ่นก็จบลงด้วยคำแนะนำตัวและแยกย้ายไปพักผ่อน โดยผม                ได้พักอยู่ชั้น 4 ห้องพักกว้างดีครับ พออยู่ได้
17:30น. ผมได้ลงมาเดินเล่นที่สวนสาธารณของหมู่บ้านพร้อมกับถ่ายรูปเล่นไปด้วย
18:30น. จนค่ำผมได้เดินออกมารับประทานอาหารหน้าหมู่บ้านจนมาเจอกับร้านข้าวมันไก่ ผมก็ได้สั่งกิน                 แต่ผมเจอที่ LPN เขาออกมากินข้าวเหมือนกัน เขาชื่อว่าพี่ อาโน พี่เขาใจดีมาก โดยการเลี้ยง                   ข้าวผมมื้อนั้น ทั้งๆที่พึ่งรู้จักแท้ขอบคุณมากนะครับ หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็กลับมาพักผ่อนที่               ห้องพัก


  • วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559

07:00น.ผมได้ตื่นมาเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม และออกไปหาอะไรทานที่หน้าหมู่บ้านเช่นเดิม
08:00น.ก็มีนักศึกษาข้ามชาติมาเรียน LPN โดยจะเรียนทุกเสาร์-อาทิตย์(จันทร์-ศุกร์ ทำงานต่อ) เพื่อ                    เตรียมความพร้อม สำหรับศึกษาต่อในระบบ โดยเริ่มจากหัดเขียน-อ่าน พยัญชนะไทย และสิ่งที่                ผมได้เห็นคือ อีกก้าวหนึ่งที่พี่พยายามพัฒนาและช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติโดยเริ่มจากการที่                  LPN ให้ความสำคัญกับการศึกษาแก่แรงงานข้ามชาติ
13:00น.ผมได้มีโอกาสได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตุและศึกษาการทำงานของพี่ๆที่LPN โดยสถานที่ คือ ชุมชน              มหาชัยนิเวศน์ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของแรงงานข้ามชาติ การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้ความรู้ เรื่องของ              กฎหมายและสิทธิที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติ เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความแข็งแรง                        สามารถพึ่งพาตนเองได้ และประสบการณ์ที่ผมได้รับครั้งนี้ คือ เห็นว่าพี่ตุ่นพยายามสร้างเครือ                  ข่ายให้เกิดภายในชุมชน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ชุมชนเกิดความแข็งแรง
17:30น.หลังจากกลับมาจากลงพื้นที่ ผมก็ได้ออกกำลังกายกับเด็ก ป.5 ด้วยแบดมินตัน เชื่อไหมครับ! ว่า              แข่ง 15 ครั้ง ผมแพ้หมดทุกครั้ง แต่ผมกลับไม่โกรธที่ตัวเองแพ้เด็กเมื่อสมัยก่อน ทำให้ผมได้                    เรียนรู้ถึงการยอมรับความแพ้ แล้วแก้ไขปรังปรุงเพื่อจะเป็นผู้ชนะในครั้งต่อไป
19:00น.ก็อาบน้ำแล้วพักผ่อนร่างกาย



  • วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559

07:00น.ผมตื่นมาเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม และออกไปหาอะไรทานที่หน้าหมู่บ้าน
08:00น.หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อผมได้รับบทบาทต้องเป็นคุณครู                สอนเด็กข้ามชาติ ในใจผมกลัวมาก แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจ ไม่ยอมปล่อยประสบการณ์ครั้งใหม่              นี้ลอยหายไปแน่ ผมสอนหน้าห้องได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ผมก็หยุดเพราะผมยังทำได้ไม่เต็มที่                แต่สิ่งที่ผมได้คือ ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่ได้ลองสอนเด็กข้ามชาติ น้องๆน่ารักดี และผมจะไม่ลืม              ประสบการณ์ครั้งนี้เด็ด
16:00น.ผมได้มีโอกาสได้ไปส่งน้องๆกลับบ้านหลังเรียนเสร็จ ทำให้ผมได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของน้องๆและพ่อแม่ของน้อง ผมมีความสุขมากที่ได้นั่งรถไปส่งน้องๆ
19:00น.มีการประชุมจัดทำโครงการที่ จ.กาญจนบุรี และสิ่งที่ผมประทับใจมากคือ พี่ๆเขาเรียกพวกผม                 เข้าไปประชุมด้วย ทั้งๆที่ผมมาแค่ 3 วันเอง และพรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว แต่พี่เขาก็ยังเรียกผมเข้าไป               ประชุมด้วย โดยสิ่งที่ผมได้เห็น คือ พี่โก้ (หัวหน้าฝ่ายสิทธิ) ผู้ดูแลโครงการครั้งนี้ พี่โก้เขามีการ               กระจาย แบ่งหน้าที่ และเน้นๆให้ทุกคนมีส่วนร่วม ผมเสียดายมากที่แค่ไปติดตามแค่ 3 วัน มันช่าง             น้อยมากและนอกจากนี้พี่เขายังมีการจัดการที่รวดเร็วมาก และนี่ก็คือคนที่พี่ตุ่นค่อยสนับสนุนพี่โก้             เพื่อให้เปลี่ยนจากผู้ตามเป็นผู้นำ!
20:00น.มีการเลี้ยงหมูกระทะจากพี่ตุ่น(เลี้ยงทุกวันศุกร์)ผมนี่อิ่มไปหลายวันเลยขอบคุณนะครับ
22:00น.มีการดื่มเครื่องดื่มและเลี้ยงสังสรรค์กันกับการดูฟุตบอลควบคู่ไปด้วย แต่สิ่งที่ผมสังเกต คือ                     ตั้งแต่วันที่ผมมาแรกล่ะ พี่โก้จะนั่งดื่มตลอดถึงดึกๆ ผมเลยถามว่า"พี่โก้ดื่มบ่อยขนาดนี้ พรุ่งนี้พี่จะ             ไหวหรอครับ" พี่โก้ ตอบ"ในเมื่อเราดื่มได้ ก็ต้องตื่นมาทำงานได้" คือดื่มได้ แต่งานห้ามเสีย ผม                ต้องขอชอบในเรื่องการแบ่งเวลาที่ดีจริงๆครับ แล้วผมก็ขอตัวไปนอนเพราะพรุ่งนี้ผมมีหน้าที่ต้อง             ไปรับน้องๆผู้น่ารัก

  • วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559

05:00น.ตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับน้องๆ โดยจะแบ่งเป็นรถ 2 คัน คันที่ผมนั่งคือจะรับน้องที่เข้าเรียนโรงเรียนใน              ระบบแล้ว ส่วนอีกครั้งจะรับน้องจากที่พักมาส่งที่ LPN คือ น้องๆที่เตรียมความพร้อมเข้าศึกษา                  ต่อในระบบ
13:00น.กล่าวลาพี่ตุ่นแล้วพี่ๆที่ LPN เพื่อเดินทางกลับมาที่บางแสน
17:00น.เดินทางมาถึงบางแสนโดยสวัสดิภาพ



ประมวลภาพการติดตามผู้นำ

หลักการ:ครองตน,ครองคน,ครองงาน

หลักการ:ครองตน,ครองคน,ครองงาน(พี่ตุ่น)

(อ้างอิง:http://www.posttoday.com/analysis/interview/359780)
ครองตน
          ถ้าพูดถึงผู้บริหารหรือผู้จัดการภาพแรกที่เข้ามาในหัวอาจจะเป็นคนที่แต่งตัวดีใส่เสื้อสูท ผูกเนคไท นั่งโต๊ะทำงานหรูหราในห้องแอร์ ค่อยสั่งงาน แบ่งงานให้แก่ลูกน้อง อะไรประมาณนั้น แต่..!คุณสมพงค์ สระแก้ว หรือ พี่ตุ่น ไม่ใช่แบบนั้น ตลอดเวลา 3 วันที่ผมนิสิตจากมหาวิทยาลัยบูรพาได้มีโอกาสที่ได้ไปติดตามการทำงานของพี่ตุ่น ก็พบว่าทุกเช้าที่ผมตื่นมาภาพแรกที่เจอจะเห็นพี่ตุ่นแต่งกายแบบสบายๆชิวๆ(เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น)กำลังซักผ้า ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ และทำทุกอย่างด้วยตนเอง ทำให้ภาพของผู้บริหารในสมองของผมเปลี่ยนไป สิ่งที่พี่ตุ่นกำลังกระทำนั้น คือการเป็นตัวอย่างแก่ลูกน้อง โดยเริ่มจากที่พี่ตุ่นเริ่มทำทุกอย่างให้ลูกน้องได้เห็นก่อน ส่งผลให้ลูกน้องทุกคนเคารพรักพี่เป็นอย่างมากและได้ใจลูกน้องไปเต็มๆทุกอย่างพิสูจน์ได้จากการที่ผมได้ไปสัมภาษณ์บุคลากรของ LPN ทุกคนต่างตอบเป็นทำนองเดียวกันว่าที่อยู่และทำงานให้กับ LPN ไม่ยอมไปไหนเพราะพี่ตุ่น คนเดียว ผมจึงถามอีกว่า"แล้วถ้าพี่ตุ่นเลิกทำงานที่นี่พี่ยังจะำงานในด้านนี้ต่อไหมครับ" พี่ๆในLPN ส่วนมากต่างตอบตรงกันว่า"ไม่ทำครับ" ด้วยสไตล์และบุคลิกภาพที่เป็นมิตรไมตรี มีความเมตตาเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่แก่ทุกคนและอุดมการณ์ที่มั่นคงในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนยอมเหนื่อยเพียงเป้าหมายของค์กรและพี่ตุ่น กล่าวได้ว่าทุกคนทำงานด้วยใจจริงครับ และอีกเรื่องหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ เรื่องครอบครัว ถึงแม้พี่ตุ่นจะเต็มที่กับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มากแค่ไหน แต่...! พี่ตุ่นก็ยังไม่ลืมครอบครัว ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ LPN ภาพที่ผมจะเห็นได้ทุกเช้าเย็น คือภาพที่พี่ตุ่นจะเล่นกับน้องเมฆอย่างน่ารักมากและมีการพูดคุยกันภายในครอบครัวอย่างสุภาพอ่อนหวาน โดยผมแทบไม่ค่อยได้ยินคำหยาบจากพี่ตุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

ครองคน
          หลักในการครองคนของพี่ตุ่นจะเป็นการเริ่มลงมือทำ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ลูกน้องและพี่ตุ่นจะพยายามดึงศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กรออกมาอย่างเต็มที่ จากการที่ผมได้สังเกตุและได้ติดตามพี่ตุ่น ทำให้ผมได้เห็นว่าพี่ตุ่นจะไม่ชอบสั่งลูกน้องให้ทำแบบนู้นให้ทำแบบนี้ แต่พี่ตุ่นจะคอยเป็นที่ปรึกษาแทน คือให้ลูกน้องลองลงมือทำก่อนแล้วถ้าไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้ค่อยปรึกษากับพี่ตุ่น เพื่อหาแนวทางปฏิบัติงาน ให้บรรลุตามเป้าหมายได้ ผมเคยถามพี่ตุ่นว่า"ทำไม ทุกคนถึงได้ทำงานด้วยใจและสามารถทำงานในส่วนต่าง โดยไม่ต้องรอคำสั้งจากพี่ตุ่นครับ"พี่ตุ่นตอบกลับมาสั้นๆ ว่า "พี่ใช้หลักจิตวิทยาที่ได้เรียนมาและปรับใช้ในการทำงาน"ผมก็เลยตอบกลับไปว่า "อ๋อครับ" ซึ่งจากที่ได้สังเกตการทำงานของพี่ตุ่น ผมจึงได้สันนิษฐานจากการสังเกตว่าพี่ตุ่นต้องใช้หลักของ เบิร์นส์  (Burns) คือ ทฤษฎีผู้นําเชิงปฏิรูป
1.ผู้นำการแลกเปลี่ยน (Transactional  Leadership) 
      ผู้นำที่ติดต่อกับผู้ตามโดยการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และสิ่งแลกเปลี่ยนนั้นต่อมากลายเป็นประโยชน์ร่วมกัน  ลักษณะนี้พบได้ในองค์กรทั่วไป เช่น ทำงานดีก็ได้เลื่อนขั้น  ทำงานก็จะได้ค่าจ้างแรงงาน และในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรมีข้อแลกเปลี่ยนกับชุมชน เช่น ถ้าตนได้รับการเลือกตั้งจะสร้างถนนให้  เป็นต้น
2.ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational  Leadership)
      ผู้นำที่ตระหนักถึงความต้องการของผู้ตาม พยายามให้ผู้ตามได้รับการตอบสนองสูงกว่าความต้องการของผู้ตาม  เน้นการพัฒนาผู้ตาม  กระตุ้นและยกย่องซึ่งกันและกันจนเปลี่ยนผู้ตามเป็นผู้นำ  และมีการเปลี่ยนต่อๆกันไป เรียกว่า Domino  effect ต่อไปผู้นำการเปลี่ยนแปลงก็จะเปลี่ยนเป็นผู้นำจริยธรรม ตัวอย่างผู้นำลักษณะนี้ ได้แก่  ผู้นำชุมชน
3.ผู้นำจริยธรรม (Moral  Leadership)
      ผู้นำที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ตาม  ซึ่งผู้นำจะมีความสัมพันธ์กับผู้ตามในด้านความต้องการ (Needs) ความปรารถนา (Aspirations) ค่านิยม (Values) และควรยึดจริยธรรมสูงสุด คือ ความเป็นธรรมและความยุติธรรมในสังคม  ผู้นำลักษณะนี้มุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ตอบสนองความต้องการ และความจำเป็นอย่างแท้จริงของผู้ตาม  ตัวอย่างผู้นำจริยธรรมที่สำคัญ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่านทรงเป็นนักวางแผนและมองการณ์ไกล นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง  เช่น โครงการอีสานเขียว โครงการน้ำพระทัยจากในหลวง  โครงการแก้มลิง เป็นต้น

(อ้างอิง:https://www.gotoknow.org/posts/384403)
คือ
ขั้นแรก คือ ผู้นำการแลกเปลี่ยน พี่ตุ่นหาบุคคลที่มีอุดมการณ์ที่เหมือนกัน เพื่อมาทำงานร่วมกันในด้านสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยอาจมีผลตอบแทน เป็นเงินเดือน
ขั้นต่อมา คือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่จนเกิดทักษะในการทำงาน พี่ตุ่นก็ได้เริ่มการพัฒนาผู้ตาม ให้กลายเป็น ผู้นำ โดยการค่อยสนับสนุนอยู่ข้างหลังจากพี่ตุ่น และฝึกให้ผู้ตามรับผิดชอบงานต่างๆ อันจะทำให้เกิดทักษะในด้านต่างๆ ต่อไป
ขั้นสุดท้าย คือ ผู้นำจริยธรรม หลังจากที่ผู้ตามได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแล้ว พี่ตุ่นจะค่อยปลูกฝังในด้านจริยธรรม โดยการทำงานด้วยความเป็นธรรมและความยุติธรรม เพื่อให้สามารถพัฒนาและแก้ไขได้อย่างยั่งยืน

ครองงาน
          เน้นพัฒนากลไกการคุ้มครองสิทธิ การเยียวยาผู้เสียหายจากการถูกละเมิด และส่งเสริมการศึกษา โดยเฉพาะงานด้านสิทธิ ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงานและคดีความ และส่วนงานด้านการศึกษา ที่ศูนย์เตรียมความพร้อมสู่ระบบโรงเรียนของรัฐ โดยหลักในการครองงาน คือ จะแบ่งงานตามความถนัดของแต่ละคนได้คิดได้ลงมือทำอย่างเต็มความสามารถและเน้นให้ทุกคนได้ีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน และนอกจากนี้พี่ตุ่นยังสร้างเครือข่ายในชุมชน เพื่อใหเกิดความแข็งแรง โดยการลงไปให้ความช่วยเหลือและให้ความรู้แก่คนในชุมชน ตัวอย่างคือ ชุมชนมหาชัยนิเวศน์ ที่องค์กร LPN ได้ลงไปช่วยเหลือและให้ความรู้แก่คนในชุมชน ในเรื่องของกฎหมายและสิทธิ เพื่อลดความเสี่ยงในการโดนหลอกไปค้าแรงงานอย่างผิดกฎหมาย






ภาพตัวอย่างความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่วิทยากรนำมาเป็นสื่อประกอบการให้ความรู้



ภาพของสถานที่ในการให้ความรู้แก่คนในชุมชน

               จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเป็นเพียงแค่ตัวอย่างการทำงานของมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน(LPN) และของพี่ตุ่น และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ แล้วจะรู้จักพี่ตุ่นและองค์กร NGO มากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ 

ประวัติความเป็นมาและการดำเนินงานของ LPN

ประวัติความเป็นมาและการดำเนินงานของ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงงาน (LPN)


วิสัยทัศน์    มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานเป็นองค์กรด้านแรงงานที่มุ่งมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิต คุ้มครองสิทธิความเสมอภาค การพึ่งตนเอง และสรรค์สร้างการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติ

ยุทธศาสตร์
  1. การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ และการทำงานบนฐานข้อมูลที่กลุ่มเป้าหมายแรงงานประสบปัญหาโดยตรง  และปัญหาเชิงโครงสร้างของชุมชน สังคม และนโยบาย
  2. การพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับปัญหาความต้องการของแรงงาน
  3. การทำงานช่วยเหลือโดยตรง ด้านกฎหมาย ปัญหาการไม่เข้าถึงสิทธิต่างๆ
  4. การพัฒนาเครือข่ายหน่วยงานทั้งภาครัฐ  เอกชน  องค์กรชุมชนในพื้นที่ปฏิบัติงาน  และระดับประเทศ
  5. การทำงานเชิงสิทธิ์  และการทำงานเชิงนโยบาย  Advocacy  เพื่อการเขาถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิแรงงาน สิทธิทางสุขภาพ สิทธิทางการศึกษา  และการบริการทางสังคมต่างๆ
  6. การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และมีส่วนร่วมของแรงงานเพื่อการพึ่งพาตนเองได้
(อ้างอิง:http://www.oknation.net/blog/SompongSrakaew/2016/03/page3)

ประวัติความเป็นมาและการดำเนินงาน
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ  Labour  Rights  Promotion  Network  Foundation  (LPN)  เดิมชื่อ  “เครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน”  ก่อตั้งขึ้นปลายปี  2547ดำเนินการเป็นภายใต้คณะบุคคลเพื่อการทำงานภาคประชาสังคมและเน้นการทำงานประเด็นแรงงานข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก เครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน มีมุ่งมั่นศึกษา ค้นคว้าเรื่องเด็กข้ามชาติ เพราะเล็งเห็นปัญหาด้านการศึกษา อีกทั้งพบการปล่อยปะละเลยของผู้ปกครอง และยังพบปัญหาแรงงานเด็กปะปนอยู่ตามสถานประกอบการ
เครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.2547 ในฐานะกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน ดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานย้ายถิ่น ในช่วงแรกอาจมีอุปสรรคด้านงบประมาณ จนกระทั่งหน่วยงานทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่  24 ธันวาคม 2551เปลี่ยนจากชื่อเดิมเป็น มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน การจดทะเบียนรับรองทางกฎหมาย ประกอบกับสังคมเริ่มสัมผัสปัญหาด้านแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตาม เป็นผลให้หน่วยงานได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณ ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลเพิ่มขึ้น
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้แรงงานย้ายถิ่นและครอบครัวได้เป็นส่วนหนึ่งในสังคมไทย บริการของมูลนิธิฯ มีลักษณะเป็นศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือแรงงาน รวมถึงการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่แรงงานย้ายถิ่น ต่อมา การทำงานของทางมูลนิธิฯได้ขยายขอบเขตการทำงาน เนื่องจากมีจำนวนประชากรแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานเป็นประชากรวัยหนุ่มสาว ทำให้อัตราการเกิดขึ้นของปัญหาเพิ่มขึ้นอย่างสัมพันธ์กัน เกิดเด็กข้ามชาติในประเทศไทย  ประกอบกับมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบของแรงงาน การค้ามนุษย์จึงกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทางมูลนิธิ ฯ จะต้องดำเนินการ เตรียมรับมือกับปัญหา และป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ 
มูลนิธิ ฯ เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน บุคลากรในหน่วยงานมีอุดมการณ์และความต้องการช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติและแรงงานไทย มีการทำงานภาคสนามเป็นส่วนมาก ทำให้ลงไปสัมผัสปัญหาอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มแรงงานข้ามชาติ รับรู้รากเหง้าแห่งปัญหาของแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตาม แม้แรงงานข้ามชาติจะมีงาน มีรายได้เพียงพอต่อความต้องการ แต่ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาการไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้  ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ได้รับการคุ้มครองทางด้านสังคมที่ดีเพียงพอ และที่สำคัญ แรงงานข้ามชาติคือกลุ่มเปราะบาง มีความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จากกระบวนการค้ามนุษย์ เช่น ถูกบังคับ หลอกลวงกักขังให้เป็นแรงงานประมงต่อเนื่อง แรงงานเด็ก หญิงค้าบริการ  เป็นต้น ทางมูลนิธิฯ จึงเน้นการทำงานโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ส่งเสริมการรับรู้และเข้าถึงสิทธิที่พึงจะได้รับ แรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามมีศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ทัดเทียมคนไทยในสังคมไทยและสังคมโลก การตระหนักในข้อนี้จะทำให้ลักษณะการทำงาน เป็นการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติและมีความสุข
การดำเนินการของมูลนิธิฯ ได้ศึกษาวิจัยปัญหาด้านแรงงานข้ามชาติ ปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ปฏิบัติการได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยอื่นที่สนใจศึกษา ค้นคว้าประเด็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านแรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศหลายองค์กร มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ได้รับการสนับสนุนการทำงานต่อประเด็นเด็กต่างชาติและแรงงานข้ามชาติจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO-IPEC, องค์การช่วยเหลือเด็กแห่งสหราชอาณาจักร Save  the  Children UK, สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, UNIAP  ซึ่งเป็นการทำงานเกี่ยวกับการทำงานป้องกันการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย  การคุ้มครองสิทธิเด็กต่างชาติ สิทธิทางการศึกษา สิทธิทางสุขภาพ การปกป้องคุ้มครองเด็ก และการป้องกันการค้ามนุษย์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงานและการค้ามนุษย์   ตลอดระยะเวลาการดำเนินการ องค์กรชำนาญการต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิแรงงาน การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เนื่องจากการลงทำงานภาคสนามโดยการปฏิบัติการร่วมกับภาคีภาครัฐ และภาคองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้อง
จากประสบการณ์การให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่แรงงานข้ามชาติในช่วง 8  ปีที่ผ่านมา ทำให้ทางมูลนิธิ  มีความรู้และความเชี่ยวชาญในประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ไร้สัญชาติ หรือกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เน้นพัฒนากลไกการคุ้มครองสิทธิและการเยียวยาผู้เสียหายจากการถูกละเมิด และส่งเสริมการศึกษาแก่แรงงานข้ามชาติและผู้ติดตาม รวมทั้งส่งเสริมสิทธิด้านสุขภาพ การทำงานที่ปลอดภัย การศึกษา และบริการทางสังคม อีกทั้งยังมีศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงานและคดีความ Labour  Center (LC-LPN)  เพื่อให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงาน และดำเนินการให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติในประเด็นสิทธิมนุษยชน การเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน การป้องกันการใช้แรงงานเด็ก การป้องกันการค้าหญิงและเด็ก การป้องกันการค้ามนุษย์ในรูปแบบของแรงงาน และทำให้เกิดการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษาของบุตรหลานหรือผู้ติดตามแรงงานข้ามชาติ
ปัจจุบันมูลนิธิฯมีเจตนามุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาระบบการเข้าถึงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาจากการถูกละเมิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง คือ การถูกค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและคนข้ามชาติในประเทศไทย

(อ้างอิง:http://www.oknation.net/blog/SompongSrakaew/2014/05/01/entry-1)

เครือข่ายความร่วมมือ
  • เครือข่ายปฏิบัติการด้านแรงงานข้ามชาติ Action Network for Migrant (ANM)
  • เครือข่ายองค์กรพัฒนาเกชนด้านแรงงาน Migrant Working Group (MWG)
  • เครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์
    Anti Human Trafficking Network in Thailand (ATN)
  • เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ไทย กัมพูชา
    Cambodia and Thailand Anti-Human Trafficking
  • เครือข่ายเด็กเคลื่อนย้าย Children on the Move
  • เครือข่าย CRC

ประวัติ นายสมพงค์ สระแก้ว

(อ้างอิง:http://www.ramanrak.com/?p=286)



ผู้นำในดวงใจ
คุณสมพงค์ สระแก้ว(พี่ตุ่น)
ผู้อำนวยการ/ ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน 
Director of Labour Rights Promotion Network Foundation (LPN)
      จากบุคคลิกแล้วดูเหมือนจะเป็นผู้ชายที่เงียบๆ และยิ่งไว้หนวดเครายิ่งทำให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้น แต่ผมเชื่อนะครับว่า ถ้าใครได้รู้จักกับพี่ตุ่นก็ต่างตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น ด้วยความเมตตาเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่และจิตใจที่จะทำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริง โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ ยิ่งทำให้พี่ตุ่นกลายเป็นที่เคารพรักและนับถือของคนภายในองค์กรและคนที่รู้จักทั่วไป 

ประวัติการศึกษา                    
·         ปริญญาโท  สาขาวิชาพัฒนาชุมชน  คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

·         ปริญญาตรี  สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์  คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

           
(อ้างอิง:http://thaingo.org/thaingo/node/2737)

ประสบการณ์ทำงาน
·         นักข่าวนิตยสาร​​​​​​​​​​   Executive  90​​​​​​   ปี  2535- 2536
·         มูลนิธิเพิร์ล  เอส บัค  ประเทศไทย   ปี   2536-2539
·         องค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (PATH)​​​​​  ปี   2541-2542
·         มูลนิธิรักษ์ไทย  สมุทรสาคร​​​​   ปี   2542-2547
·         ผู้ก่อตั้งเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน  จังหวัดสมุทรสาคร  ปี  2548- 2551 
·         ผู้อำนวยการ  มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน   ปี   2551- ปัจจุบัน



(อ้างอิง:http://tu.listedcompany.com/news.html/id/496217/group/newsroom_press)
พี่ตุ่นเป็นวิทยากรให้ความรู้ถึงความสำคัญของการศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักให้กับพนักงานของไทยยูเนี่ยนและสนับสนุนให้ลูกหลานเรียนหนังสือ ณ โรงงานไทยยูเนี่ยน จังหวัดสมุทรสาคร
ผลงานวิชาการ
·         ผลการศึกษา  สถานการณ์การค้ามนุษย์ระหว่างพื้นที่ต้นทาง (สังขละบุรี)  และพื้นที่ปลายทาง(มหาชัย) ร่วมกับมูลนิธิพัฒนรักษ์   สนับสนุนโดย UN Inter-Agency Project on Human Trafficking (UNIAP)  ปี  2547
·         ผลการศึกษา   การพัฒนารูปธรรมการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ และข้อเสนอต่อมาตรการคุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ   ร่วมกับ  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  สนับสนุนโดย  องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO-IPEC)  ปี  2548
·         ผลการศึกษา  กระบวนการเข้าสู่การค้ามนุษย์  จังหวัดสมุทรสาคร   โดย  ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาชญาวิทยา และกระบวนการยุติธรรม  คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน  และกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ  กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์  ปี  2550
·         ผลการศึกษา  นายหน้า กับแรงงานข้ามชาติ  สมุทรสาคร   สนับสนุนโดย  ACILS  (ระยะเวลา  เดือน)  2551
·         ผลการศึกษา “สถานการณ์การย้ายถิ่นและผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิและการค้ามนุษย์ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ” สนับสนุนโดย GTIP Funding USA.
·         เขียน บทความทั่วไปด้านแรงงานข้ามชาติ  เด็กต่างชาติ  สิทธิแรงงานข้ามชาติ ในประเทศไทย
·         รายงานผลการศึกษา  “สถานการณ์แรงงานเด็กข้ามชาติ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร  สนับสนุน โดย   Terr des Hommes 

(อ้างอิง:http://prachatai.com/journal/2015/04/58947)
งานแถลงข่าวในหัวข้อ “ฤา จะหนีไม่พ้นวังวนการค้ามนุษย์?” 
พี่ตุ่น กล่าวในเรื่องของประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคธุรกิจประมง

รางวัล/ประกาศนียบัตร
·         รางวัล  ฮีโร่ในการทำงานด้านการคุ้มครองสิทธิ และการป้องกัน ปราบรามการค้ามนุษย์ ในกลุ่มแรงงานจาก  United  States  Department   of  State   ประเทศสหรัฐอเมริกา  
Hero  Acting  to  End  Modern – Day  Slavery  Award from USA  2008, TRAFFICKING  IN   PERSONS  REPORT
·         ได้รับประกาศเกียรติคุณ เป็นนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น  ประจำปี  พ.ศ. 2552   ประเภทนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ  จาก มูลนิธิศาสตราจารย์ปกรณ์  อังศุสิงห์
·         รับเข็มเกียรติยศและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ    โครงการ “ร่วมปัน แบ่งใจ สู่สายใยเด็กและสตรี” มูลนิธิอมาตยกุล   ปี    2555   
·         ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา  วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
·         2013 Ashoka Fellows, Thailand   




นายณัฏฐพงศ์ ชอินทรวงศ์ 56020981
สาขาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์